จดหมายเหตุจุฬา18

2567 Q1

9 มกราคม 2567 เยือนสมุทรปราการ

เมื่อวันอังคารที่ 9 มกราคม 2567 ทริปพาชาว CU18 ชมเมืองสมุทรปราการและปลูกต้นกล้าจามจุรีที่เพาะจากต้นจามจุรี ร 9 ทรงปลูกที่จุฬาเมื่อปี 2505

ขอขอบคุณ

อิ้น- พลเรือตรีหญิง ดร. ประอร สุนทรวิภาต ครุ และชาวปากน้ำ ปี๊ด-ดารุณี ธรรมโพธิ์ดล รัดสาด และ 4 สาวชาวบัญชี ปลาย-ปลายพันธุ์ เจริญพานิช ทิพย์-พรทิพย์ สุขทัพภ์ นาถ-ชาลินี นาคเวก และจิ๋ม-วราภรณ์ อุ่นปิติพงษา

ขอบคุณทุกคนที่ช่วยจัดกิจกรรมนี้และยังสนับสนุนอาหารเช้าอาหารว่างเครื่องดื่มค่าเข้าชมอีก

ช่วงเช้า

เข้าเยี่ยมชมโรงเรียนนายเรือ สมุทรปราการ

กราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นสิริมงคล

รับฟังการบรรยายถึงบทบาทของ รร นายเรือ ที่ห้องหัวเรือ ตึกกองบัญชาการและเยี่ยมชมหอเกียรติยศ

ได้เข้าชมหอดาราศาสตร์

และอนุสรณ์สถานเรือหลวงธนบุรีด้วย

ได้ทั้งความรู้ความเข้าใจ ได้เห็นพระราชหัตถเลขาของ ร 5

ตื่นตากับการดูดาว และภาคภูมิใจกับเรือหลวงธนบุรี

กิจกรรมที่สำคัญ คือ ร่วมกันปลูกต้นจามจุรี บริเวณสวนด้านทิศใต้ของสนามฟุตบอลโรงเรียนนายเรือ จำนวน 2 ต้น

ไปทานอาหารเที่ยงที่ ชมชล สโมสรสัญญาบัตร

ภาคบ่าย ไปหอชมเมืองสมุทรปราการ

ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 23 ชมวิวเมืองสมุทรปราการ 360 องศา

และ

ชมนิทรรศการ “ร้อยเป็นเรื่อง เมืองปากน้ำ” ผ่านสื่อ Interactive มี 6 โซน

* “ปากน้ำเมื่อนานมา” โดยนั่ง Ship Time Machine Simulator

* “เข้าท่าเมืองหน้าด่าน” ชมคลังสินค้านิวส์อัมเตอร์ดัมที่ไม่มีแล้ว

* “ปรากฏเป็นปราการ” พหุวัฒนธรรม มอญ มุสลิม จีน ไทย ชมโมเดลองค์พระสมุทรเจดีย์ที่ผ่าให้เห็นองค์เดิมตั้งแต่แรกสร้างจนถึงปัจจุบัน

* “ปราการป้องกันแผ่นดิน” ย้อนการต่อสู้กับเรือรบฝรั่งเศส ในวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 เมืองปากน้ำในฐานะเมืองหน้าด่านป้องกันพระนคร และเส้นทางรถไฟสายแรกสายปากน้ำ

* ดูไม่ทันอีก 2 โซน คือ “หน้าด่านสานเศรษฐกิจ” และ “มอง(กาล)ไกลไปหน้าด่าน”

ต้องกลับมาชมอีก ยังขาดชั้น 25 ที่มีนิทรรศการ “ร้อยเป็นเรื่อง เมืองปากน้ำ“ อีก

สุดท้ายปิดรายการด้วย พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ที่ใครไม่เคยไป ต้องรีบไปดู เพราะต้องขึ้นบันไดสูงอยู่ แข้งขาจึงสำคัญ

#CU18

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกท่าน

ที่ขออนุญาตนำภาพมารวบรวมสรุปทริปนี้ด้วยกัน

15 มกราคม 2567 ปลูกป่าที่น่าน

ทีมปลูกป่าน่านเริ่มออกเดินทาง วันนี้เป็นวันครบรอบ 62 ปี ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จไปปลูกจามจุรี 5 ต้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงเป็นวันที่เหมาะสมที่ชาว CU18 จะปลูกต้นลูกจามจุรีทรงปลูกสักแห่งหนึ่ง และที่สนามหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ได้เป็นทำเลที่ได้ประสานกันไว้ วันนี้ ผู้ราชการจังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และนายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ น่าน (สิงห์ดำ ๔๔ / CU34) เป็นประธานในพิธีปลูก ร่วมกับพี่ๆ CU18 หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน วัฒนธรรมจังหวัดน่าน และผู้แทนจากสถานีวิจัยจุฬาฯ ไหล่น่าน เวียงสา น่าน

วันที่ 16 มกราคม 2567

วันนี้ได้เริ่มต้นปลูกป่าที่จุฬา เวียงสา

สมาชิกช่วยกันปลูก 400ต้น

ที่เหลือ ทีมเจ้าหน้าที่จะทยอยปลูกต่อ จนครบ18ไร่ก่อนเข้าฝนนี้

พื้นที่ที่ปลูก จะอยู่ใกล้บ่อน้ำธรรมชาติ

น่าจะง่ายต่อการรดน้ำ

16 มกราคม 2567 ติดตามการปลูกป่าสักที่สระบุรี

ทันตะ37-cu18 ได้เดินทางไปติดตามผลการปลูกสักที่จุฬาฯสระบุรี

ออกเดินทาง 8.00น.แวะวัดเล่งเน่ยยี่ 2 ที่บางบัวทองก่อนเดินทางถึงจุฬาฯที่แก่งคอย12.30น. ได้พบอ.เล็กที่เป็นผู้ดูแลโครงการของเราโดยก่อนไปปฏิบัติงานอ.เล็กได้กรุณาประสานให้ได้ผอ.ของศูนย์ที่กำลังจัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องคาร์บอนเครดิตให้นักเรียนมัธยมจนครปฐมอยู่ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและสรุปการดูแลแปลงสักของพวกเราโดยใช้วิธีการปลูกซ่อมต้นที่ตายเป็นระยะๆ ได้ความรู้เกี่ยวคาร์บอนเครดิตมากมาย

จากนั้นเดินทางไปปลูกต้นสักที่เตรียมไป 10 ต้น ที่รอบๆแอ่งน้ำหน้ากลุ่มอาคาร4,5,6 ที่อ.เล็กจัดไว้เป็นแปลงสาธิต เจ้าหน้าที่ได้เตรียมหลุมไว้ เสร็จแล้วเดินทางไปเยี่ยมแปลงสักของcu18 ประมาณได้ว่ารอดูประมาณ70% ขนาดสูงต่ำไม่เท่ากัน เจ้าหน้าที่กำลังรดน้ำอยู่พอดีโดยสูบจากแอ่งน้ำที่มีอยู่

มีเรื่องแจ้งด้วยครับ ทางจุฬาฯสระบุรีได้ย้ายต้นจามจุรีของพวกเราไปไว้ที่แปลงสาธิตบริเวณหน้ากลุ่มตึก4,5,6 เนื่องบริเวณเดิมใกล้กับต้นโพธิ์ทรงปลูกของกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯเกินไปเกรงว่าเมื่อต้นจามจุรีโตขึ้น รากของจามจุรีจะไปรบกวนแย่งอาหาร

16 มกราคม 2567 เที่ยววังสระปทุม

พวกเราCU18 และเพื่อนมาแตร์อีกส่วนหนึ่ง ได้ความอนุเคราะห์จากเพื่อนที่ทำงานใกล้วังสระปทุม กรุณาดูแลความสะดวกให้เข้าชมพระตำหนักใหญ่ แห่งวังสระปทุม คือ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

พวกเราชื่นชมในความเรียบง่ายแต่โก้ สมพระเกียรติ

และปลื้มในการออกแบบที่คิดรอบ ให้เป็นวังที่อยู่สบาย ร่มรื่นมากๆ มีลมพัดผ่าน ถ่ายแทอากาศได้ดี ยิ่งมาในสมัยนี้ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงโปรดต้นไม้ จึงแทบมองไม่เห็นตัวอาคารเต็มๆเลย เพราะกิ่งใบต้นไม้ใหญ่เล็กปกปิดเสียหมด เหมือนเข้าไปชมสวนป่ากลางกรุง

ได้เห็นต้นกระเบาใหญ่หลายต้นที่มีอายุน่าจะเป็น 100 ปี

ในวังนี้มีต้นไม้ 2000 กว่าต้น ประมาณ 300 ชนิด

ส่วนรายละเอียดอาคารและนิทรรศการ ขอ link บทความที่คุณโลจน์ น้นทิวัชรินทร์ หลานตั้ม ม.ล. สุจิรา งอนรถ เขียนไว้มาให้อ่าน

สำรวจพระตำหนักใหญ่ วังสระปทุม ที่ประทับสไตล์นีโอคลาสสิกของพระอัยยิกาในหลวง 2 รัชกาล

https://readthecloud.co/sa-pathum-palace/

มีมี่ มณีรัตน์ ศรีเสาวชาติ